วันพุธที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2555

ความแตกต่างระหว่าง DLP และ LCD




หัวข้อ
DLP
LCD

1. เทคโนโลยีในการให้ภาพ
DLP ใช้การสร้างภาพด้วย Chip เพียงชิ้นเดียวที่เรียกว่า DMD CHIP ซึ่งภายในจะประกอบด้วยกระจกขนาดที่เล็กมากๆ จำนวนมากมายแต่ละชิ้นของกระจกจะแทนจุดแสงในแต่ละพิกเซล ซึ่งเมื่อมีแสงจากหลอดไฟมาตกกระทบและกระจกนั้นจะเอียงรับแสงและสะท้อนออกมาทำให้เกิดภาพที่จอภาพ
ทั้งนี้ เทคโนโลยี่ DLP ในปัจจุบัน ที่จำหน่ายอยู่ในตลาด จะเป็นยี่ห้อ ที่อาจไม่คุ้นเตย และทำราคาถูกมาก จนทำให้ เกิดความสับสนในการตัดสินใจ เนื่องจากแท้จริงแล้ว DLP เป็นเทคโนโลยีใหม่ แต่ถ้าจะให้เป็น DLP แท้ๆ ตัวมีราคาสูงหรือเป็น 3 Clip DLP ถึงจะได้เทคโนโลยีที่เป็น DLP แท้ๆ และมีคุณภาพสูงกว่ามาก ซึ่ง แม้แต่ DLP 1 Clip สำหรับยี่ห้อ มาตรฐาน ในตลาด ยังมีราคาสูง รวมถึง 3 Clip DLP ที่กล่าวถึง สำหรับยี่ห้อ มาตรฐาน ยังมีราคา สูงมากกว่า 500,000 เลยที่เดียว   
LCD ใช้ ของเหลวในการกำเนิดภาพโดยเมื่อส่องแสงจะผ่านการจกสะท้อนกรองสี ทำหน้าที่แยกแสงออกเป็น 3 แม่สี คือ แดง เขียว และน้ำเงิน เพื่อผ่านแสงแต่ละสีไปสู่ LCD PANEL แต่ละชุดจะประกอบด้วย จำนวนแผงพิกเซล ( Pixel ) เล็กๆมากมายแต่ละพิกเซลอาศัยการควบคุมจากสัญญาณภาพภายนอกในการเปิดหรือปิดพิกเซล
ดังที่กล่าวข้างต้น จะเห็นได้ว่า เทคโนโลยี่ LCD เป็นเทคโนโลยีที่สามารถให้ภาพที่ สีสัน สดใส เสมือนจริงมากกว่า เมื่อเที่ยบกับ DLP ( ขอระบุเป็น DLP 1 Clip ตลาดราคาถูก ) แต่ทั้งนี้ LCD จะไม่ เหมาะสมในความสูงมากกว่า  5,000 Ansi Lumens เนื่องจาก เมื่อมีความสว่าง อาจส่งผลให้ LCD ชำรุดเร็วกว่าที่ควร ดังนั้น สำหรับยี่ห้อที่เป็นมาตรฐาน จึงทำโปรเจคเตอร์ ที่มีความว่างสูงกว่า 5,000 Ansi Lumen เป็นเทคโนโลยี DLP ซึ่งก็มีราคาสูงกว่า 300,000 บาท

2. ความสว่าง (Brightness)
โปรเจคเตอร์ระบบ 1 ชิป ใช้วงล้อสีเพื่อสร้างสีสัน ซึ่งวงล้อสีมีการเคลื่อนไหวตลอดเวลาในการใช้งาน จะหมุนด้วยความเร็วสูง แต่อย่างไรก็ตามในหนึ่งช่วงเวลาจะแสดงสีได้เพียงสีเดียวเท่านั้นในเวลาบางครั้งอาจเกิดสีเหลื่อม
จากเทคโนโลยีการกำเนินภาพ ทำให้ระบบ DLP ทำให้แสงที่ออกมา น้อยกว่าอย่างชัดเจน เมื่อเที่ยบกับ LCD โดยต้องใช้ DLP ความสว่างประมาณ 2,700 Ansi Lumen ถึงจะเที่ยบเท่า 2,000 Ansi Limen  ของ LCD เลยทีเดียว
โปรเจคเตอร์ 3 แอลซีดี ทุกเครื่องบรรจุตัวสร้างภาพแอลซีดีถึง 3 ชุด เพื่อที่จะสร้างภาพได้สวยคมชัดสมจริงมากที่สุด คุณจะเห็นความเป็นธรรมชาติจนแทบไม่เชื่อสายตาคุณเองจาก โปรเจคเตอร์ 3 แอลซีดี

3. ความสามารถในการแสดงค่าความต่างสี ( Contrast Ratio )
DLP ในด้านการให้ค่าความต่างสี (Contrast Ratio) และการไล่ระดับ Gray Scale ( ขาว-ดำ ) จะให้คุณภาพที่ดี
กว่าวคือ DLP สามารถทำสี ขาว และดำได้ดีกว่า LCD แต่ไม่สามารถ ทำสีต่างๆ ได้ดีกว่า LCD
ความสามารถในการแสดงค่าความต่างสี ( Contrast Ratio ) เทคโนโลยี 3 แอลซีดี มีการควบคุมแสงอย่างแม่นยำผ่านทางชุดสร้างภาพ 3 แอลซีดี ที่ไล่เฉดสีได้เรียบเนียนไม่มีสัญญาณรบกวน  
หัวข้อ
DLP
LCD
4. การรับสัญญาณภาพ
DLP เป็นระบบ Digital จึงทำให้การรองรับสัญญาณภาพที่เป็นระบบ Digital เช่น สัญญาณภาพจาก DVD , DVI (Digital Visual Interface ) จากคอมพิวเตอร์
การรองรับสัญญาณภาพระบบ Digital ถึงระดับ Full HD (1920x1080) การรับสัญญาณ ของ LCD

5. ระบบระบายความร้อน
เนื่องจาก DLP ให้เทคโนโลยีการสร้างภาพโดยใช้ Chip เพียงชิ้นเดียว จากการสำรวจโปรเจคเตอร์ชนิด 1 ชิป ปล่อยความร้อนมากกว่า 3 แอลซีดี ถึง 50 เปอร์เซ็นต์
เนื่องจาก LCD ต้องใช้พื้นในการแสดงภาพมากจึงทำให้ขนาดเครื่องใหญ่ การระบายอากาศดีขึ้น จึงทำให้สามารถระบายอากาศได้มากกว่า และมีอายุการใช้งานของหลอดได้เต็มประสิทธิภาพได้มากขึ้น

6. การดูแลรักษาเครื่องและอายุการใช้งาน
การดูแลรักษาเครื่อง DLP ไม่มีแผ่นกรองฝุ่น ฝุ่นสามารถเข้าไปเกาะที่หลอดภาพ และส่วนประกอบสำคัญในโปรเจคเตอร์ ได้ หากโปรเจคเตอร์ ไม่มีแผ่นกรองฝุ่น ฝุ่นเข้าไปลดความสว่างและประสิทธิภาพของภาพได้ อายุของหลอดภาพ ไม่มีความทนทาน เพราะความร้อนของระบบสูงมาก
แต่สำหรับเครื่อง DLP ขนาดใหญ่หรือยี่ห้อ มาตรฐาน จะมีแผ่นกรองอากาศ เสมอ และยังแข่งจันกันเรื่องการทำแผ่นกรองฝุ่นด้วย
การดูแลรักษาเครื่อง LCD สามารถเปลี่ยนและทำความสะอาดแผ่นกรองฝุ่นได้ ทำให้เครื่องมีประสิทธิภาพและการระบายอากาศที่ดี และระบบ LCD ยังสามารถพัฒนาระบบกรองฝุ่นให้ดีขึ้นกรองได้มากขึ้น หรืออัตโนมัติได้ทันที








7. คุณภาพของภาพโดยรวม
การแสดงผลในด้านของภาพที่เน้น ภาพสีขาวดำ มีความสมบูรณ์ แต่ในแง่ของภาพให้สีสดใสน้อยกว่า ระบบ LCD แต่จะดีกว่าสำหรับ DLP ที่มีความสว่างสูงกว่า 5,000 Ansi Lumen
การแสดงภาพของ LCD จุดเด่นคือ สามารถให้ความอิ่มของสีต่างๆ ได้ดีกว่า หรือ ให้สีที่สดกว่า  DLP จึงเหมาะสำหรับการใช้งานในห้องที่มีความสว่างสูงได้