หัวข้อ
|
DLP
|
LCD
|
|||
1. เทคโนโลยีในการให้ภาพ
|
DLP ใช้การสร้างภาพด้วย Chip เพียงชิ้นเดียวที่เรียกว่า DMD
CHIP ซึ่งภายในจะประกอบด้วยกระจกขนาดที่เล็กมากๆ จำนวนมากมายแต่ละชิ้นของกระจกจะแทนจุดแสงในแต่ละพิกเซล ซึ่งเมื่อมีแสงจากหลอดไฟมาตกกระทบและกระจกนั้นจะเอียงรับแสงและสะท้อนออกมาทำให้เกิดภาพที่จอภาพ
ทั้งนี้
เทคโนโลยี่ DLP ในปัจจุบัน ที่จำหน่ายอยู่ในตลาด จะเป็นยี่ห้อ
ที่อาจไม่คุ้นเตย และทำราคาถูกมาก จนทำให้ เกิดความสับสนในการตัดสินใจ
เนื่องจากแท้จริงแล้ว DLP เป็นเทคโนโลยีใหม่ แต่ถ้าจะให้เป็น DLP
แท้ๆ
ตัวมีราคาสูงหรือเป็น 3 Clip DLP ถึงจะได้เทคโนโลยีที่เป็น DLP
แท้ๆ
และมีคุณภาพสูงกว่ามาก ซึ่ง แม้แต่ DLP 1 Clip สำหรับยี่ห้อ มาตรฐาน ในตลาด
ยังมีราคาสูง รวมถึง 3 Clip DLP ที่กล่าวถึง สำหรับยี่ห้อ มาตรฐาน ยังมีราคา สูงมากกว่า
500,000 เลยที่เดียว
|
LCD ใช้
ของเหลวในการกำเนิดภาพโดยเมื่อส่องแสงจะผ่านการจกสะท้อนกรองสี ทำหน้าที่แยกแสงออกเป็น 3
แม่สี คือ แดง
เขียว และน้ำเงิน เพื่อผ่านแสงแต่ละสีไปสู่ LCD
PANEL แต่ละชุดจะประกอบด้วย
จำนวนแผงพิกเซล ( Pixel ) เล็กๆมากมายแต่ละพิกเซลอาศัยการควบคุมจากสัญญาณภาพภายนอกในการเปิดหรือปิดพิกเซล
ดังที่กล่าวข้างต้น
จะเห็นได้ว่า เทคโนโลยี่ LCD เป็นเทคโนโลยีที่สามารถให้ภาพที่
สีสัน สดใส เสมือนจริงมากกว่า เมื่อเที่ยบกับ DLP ( ขอระบุเป็น DLP
1 Clip ตลาดราคาถูก )
แต่ทั้งนี้ LCD จะไม่ เหมาะสมในความสูงมากกว่า 5,000 Ansi Lumens
เนื่องจาก
เมื่อมีความสว่าง อาจส่งผลให้ LCD ชำรุดเร็วกว่าที่ควร ดังนั้น
สำหรับยี่ห้อที่เป็นมาตรฐาน จึงทำโปรเจคเตอร์ ที่มีความว่างสูงกว่า 5,000
Ansi Lumen เป็นเทคโนโลยี DLP
ซึ่งก็มีราคาสูงกว่า
300,000 บาท
|
|||
2. ความสว่าง (Brightness)
|
โปรเจคเตอร์ระบบ
1 ชิป ใช้วงล้อสีเพื่อสร้างสีสัน
ซึ่งวงล้อสีมีการเคลื่อนไหวตลอดเวลาในการใช้งาน จะหมุนด้วยความเร็วสูง
แต่อย่างไรก็ตามในหนึ่งช่วงเวลาจะแสดงสีได้เพียงสีเดียวเท่านั้นในเวลาบางครั้งอาจเกิดสีเหลื่อม
จากเทคโนโลยีการกำเนินภาพ
ทำให้ระบบ DLP ทำให้แสงที่ออกมา น้อยกว่าอย่างชัดเจน
เมื่อเที่ยบกับ LCD โดยต้องใช้ DLP ความสว่างประมาณ 2,700
Ansi Lumen ถึงจะเที่ยบเท่า
2,000 Ansi Limen
ของ LCD
เลยทีเดียว
|
โปรเจคเตอร์ 3
แอลซีดี ทุกเครื่องบรรจุตัวสร้างภาพแอลซีดีถึง 3 ชุด
เพื่อที่จะสร้างภาพได้สวยคมชัดสมจริงมากที่สุด
คุณจะเห็นความเป็นธรรมชาติจนแทบไม่เชื่อสายตาคุณเองจาก โปรเจคเตอร์
3 แอลซีดี
|
|||
3. ความสามารถในการแสดงค่าความต่างสี ( Contrast
Ratio )
|
DLP ในด้านการให้ค่าความต่างสี (Contrast
Ratio) และการไล่ระดับ
Gray Scale ( ขาว-ดำ ) จะให้คุณภาพที่ดี
กว่าวคือ DLP
สามารถทำสี ขาว
และดำได้ดีกว่า LCD แต่ไม่สามารถ ทำสีต่างๆ ได้ดีกว่า LCD
|
ความสามารถในการแสดงค่าความต่างสี
( Contrast Ratio ) เทคโนโลยี 3
แอลซีดี
มีการควบคุมแสงอย่างแม่นยำผ่านทางชุดสร้างภาพ 3 แอลซีดี ที่ไล่เฉดสีได้เรียบเนียนไม่มีสัญญาณรบกวน
|
หัวข้อ
|
DLP
|
LCD
|
4. การรับสัญญาณภาพ
|
DLP เป็นระบบ Digital จึงทำให้การรองรับสัญญาณภาพที่เป็นระบบ
Digital เช่น สัญญาณภาพจาก DVD
, DVI (Digital Visual Interface ) จากคอมพิวเตอร์
|
การรองรับสัญญาณภาพระบบ
Digital ถึงระดับ Full
HD (1920x1080) การรับสัญญาณ
ของ LCD
|
|||
5. ระบบระบายความร้อน
|
เนื่องจาก DLP
ให้เทคโนโลยีการสร้างภาพโดยใช้
Chip เพียงชิ้นเดียว จากการสำรวจโปรเจคเตอร์ชนิด 1
ชิป
ปล่อยความร้อนมากกว่า 3 แอลซีดี ถึง 50 เปอร์เซ็นต์
|
เนื่องจาก LCD
ต้องใช้พื้นในการแสดงภาพมากจึงทำให้ขนาดเครื่องใหญ่ การระบายอากาศดีขึ้น
จึงทำให้สามารถระบายอากาศได้มากกว่า
และมีอายุการใช้งานของหลอดได้เต็มประสิทธิภาพได้มากขึ้น
|
|||
6. การดูแลรักษาเครื่องและอายุการใช้งาน
|
การดูแลรักษาเครื่อง
DLP ไม่มีแผ่นกรองฝุ่น ฝุ่นสามารถเข้าไปเกาะที่หลอดภาพ
และส่วนประกอบสำคัญในโปรเจคเตอร์ ได้ หากโปรเจคเตอร์ ไม่มีแผ่นกรองฝุ่น
ฝุ่นเข้าไปลดความสว่างและประสิทธิภาพของภาพได้ อายุของหลอดภาพ ไม่มีความทนทาน
เพราะความร้อนของระบบสูงมาก
แต่สำหรับเครื่อง
DLP ขนาดใหญ่หรือยี่ห้อ มาตรฐาน จะมีแผ่นกรองอากาศ เสมอ
และยังแข่งจันกันเรื่องการทำแผ่นกรองฝุ่นด้วย
|
การดูแลรักษาเครื่อง
LCD สามารถเปลี่ยนและทำความสะอาดแผ่นกรองฝุ่นได้
ทำให้เครื่องมีประสิทธิภาพและการระบายอากาศที่ดี และระบบ LCD
ยังสามารถพัฒนาระบบกรองฝุ่นให้ดีขึ้นกรองได้มากขึ้น หรืออัตโนมัติได้ทันที
|
|||
7. คุณภาพของภาพโดยรวม
|
การแสดงผลในด้านของภาพที่เน้น
ภาพสีขาวดำ มีความสมบูรณ์ แต่ในแง่ของภาพให้สีสดใสน้อยกว่า ระบบ LCD
แต่จะดีกว่าสำหรับ
DLP ที่มีความสว่างสูงกว่า 5,000
Ansi Lumen
|
การแสดงภาพของ
LCD จุดเด่นคือ สามารถให้ความอิ่มของสีต่างๆ
ได้ดีกว่า หรือ ให้สีที่สดกว่า DLP จึงเหมาะสำหรับการใช้งานในห้องที่มีความสว่างสูงได้
|